วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551


แกะรอยการเมือง รัฐประหาร !
"หากย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์การกบฎ และรัฐประหารในประเทศไทยต้องยอมรับว่า มักเกิดขึ้นใน 3 เดือนอันตรายแทบทั้งสิ้น นั่นคือ กันยายน ตุลาคม และ พฤศจิกายน...!!!" หรือเรากำลังเดินไปสู่การรัฐประหารอีกครั้ง...เพราะยิ่งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยกระดับการเคลื่อนไหว ความเสี่ยงต่อการเกิดรัฐประหาร ก็สูงขึ้นตามไปด้วย สถิติการรัฐประหาร ในช่วง 3 เดือน ไม่ได้อยู่บนความบังเอิญอย่างแน่นอน ... และเวลานี้ เดินทางมาถึงช่วง 3 เดือนอันครายอีกครั้ง 3 เดือนแห่งการโยกย้ายนายทหาร ประวัติศาสตร์การรัฐประหาร มันเกี่ยวข้องกับโผทหารเกือบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอใจที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายน ก่อนที่จะมีการแต่งตั้ง หรือการรัฐประหาร ในเดือนตุลาคม และช่วงเดือนพฤศจิกายน หลังจากทราบผลชัดเจนแล้วว่า โผทหารออกมาอย่างไร หรือไม่ก็การรัฐประหารเดือนเมษายน ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับเดือนแห่งการโยกย้ายนายทหารอีกแล้ว - รัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 - รัฐประหาร 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 - รัฐประหาร 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 - รัฐประหาร 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 - รัฐประหาร 14 ตุลาคม พ.ศ 2516 - รัฐประหาร 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 - รัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534... ซึ่งเหตุผลหลักมาจากความขัดแย้งนายทหารอีกเช่นกัน และ...19 กันยายน พ.ศ.2549 ส่วนเหตุผลที่อ้างในคำประกาศการทำรัฐประหารไม่ว่า จะเป็นเรื่องคอร์รัปชันหรือที่เกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูง...มักเป็นเหตุผลเกิดขึ้นภายหลังเกือบทั้งสิ้น... โยกย้ายนายทหาร ปี พ.ศ. 2551...ไม่ได้ราบเรียบนัก เหตุเพราะถูกผูกขาดอยู่ในบางขั้วอำนาจ วันนี้จะเกิดรัฐประหารไหม ไปไหนมักถูกถามคำถามเหล่านี้ตลอด...หลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลสำเร็จ และมาพร้อมกับคำประกาศ "แตกหัก" (อักครั้ง) จากปากนายรัฐมนตรี คำถาม ที่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ...เพราะทุกครั้งที่เกิดการเว้นวรรคประชาธิปไตย ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศแทบทั้งสิ้น ตัวอย่าง 19 กันยายน 2549 น่าจะเป็นบทเรียนได้เป็นอย่างดี ว่า การรัฐประหาร ไม่ใช่ "ประชาธิปไตยทางเลือก" และทหารเองก็ได้สรุปบทเรียนแล้วว่า โมเดล 19 กันยายน 2549 มีอาจนำมาใช้ในการรัฐประหารได้อีกแล้ว เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว อ้างว่ารัฐประหารก่อนจะเกิดเหตุการณ์เองเลือด...ทำให้มีเสียงตอบรับจากประชาชนสูงมาก...แต่ถึงวันนี้ ย่อมนำมาอ้างอีกไม่ได้ ในเมื่อการรัฐประหารยังไม่สูญหายจากสังคมไทย แถมมีข้อจำกัด “ความชอบธรรม” ไม่สามารถดำเนินการก่อนนองเลือดได้... จึงถูกบีบให้เลือกหนทางที่ไม่พึงปรรถนา ปะทะ...นองเลือด...และรัฐประหาร บันได 3 ชั้น ที่โอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ยิ่งสังคมมีความขัดแย้งสูงขึ้นเท่าไร โอกาสรัฐประหารก็เพิ่มขึ้นเท่าตัว และยิ่งหาก "ผู้นำ" เป็นผู้เติมเชื้อเพลิงให้เกิดภาวะสังคมเลือกข้าง...อย่างที่ประกาศออกมาวานนี้ โอกาสที่คนในชาติจะเกิดความสมานฉันท์ "ริบหรี่" ลงเรื่อยๆ รัฐประหารยุติได้ ต้องเริ่มจากกลุ่มพันธมิตรยุติการเคลื่อนไหว ... พร้อมๆ กับการประกาศ "ลาออก" ของนายกรัฐมนครี เนื่องจากตลอดเวลา 6 เดือนในการบริหารประเทศ ประเทศอยู่ในภาวะที่ "ไร้การนำ" ประเทศที่ตกอยู่ในสภาพไร้รัฐ ...ที่สำคัญ ท่าที และความคิด "สังคมเลือกข้าง" ยิ่งก่อให้เกิดความแตกแยกของคนในสังคมเพิ่มขึ้น โหวดหาตัวนายกรัฐมนตรี "คนใหม่" ที่อยู่ในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลน่าจะเป็นทางออกในระบอบประชาธิปไตย ที่สวยงามที่สุด เพราะทุกฝ่ายคงไม่อยากเห็นการเข่นฆ่าประชาชนคนไทยด้วยกันเอง...อีกแล้ว !!!
By นางสาวกนกวรรณ ธาตุอินจันทร์ ID: 4831205222

ไม่มีความคิดเห็น: